สระบุรี-ตัวตึงสระบุรีสวมชุดราตรีสีเหลืองเดินขอเงินผู้โดยสารในสถานีขนส่ง **ชาญวิทย์ คำนวนวุฒิ รายงาน**

แชร์ข่าวนี้

วันที่21ตุลาคม2567 จากกรณีที่เพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้ ได้แชร์คลิปวีดีโอของSocial Hunter โดยระบุข้อความว่า “ชุดราตรีสีเหลือง หลุดมาจากกาลเพ_ลาไดอีก บขส.สระบุรี” ซึ่งในคลิปจะเห็นได้ว่า มีชายร่างสูงใหญ่ห่อห่มร่างกายด้วยผ้าสีเหลือง (คล้ายจีวรพระ) เที่ยวเดินขอเงินกับผู้โดยสารที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ที่นั่งรอรถโดยสารภายในสถานีขนส่งจังหวัดสระบุรี

ล่าสุดวันนี้ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังสถานีขนส่งสระบุรีโดยได้เข้าคุยกับเจ้าหน้าที่เทศกิจของเทศบาลเมืองสระบุรีที่คอยดูแลและอำนวยความสะดวกให้กับผู้โดยสารโดยเจ้าหน้าที่เทศกิจเล่าว่าบุคคลที่เห็นในคลิปดังกล่าว ชื่อคิว (เป็นสาวสอง)ซึ่งเป็นผู้ป่วยทางจิตเวช จะเข้ามาเดินขอเงินผู้โดยสารเป็นประจำ แต่ไม่เคยทำร้ายใคร และเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าไปว่ากล่าวตักเตือนก็จะด่าว่าเจ้าหน้าที่ ต่างๆนาๆ และก็เดินหนีไป จนเป็นที่รู้กันของเจ้าหน้าที่ที่อยู่ภายในสถานีขนส่ง เคยถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไปแต่ก็ต้องปล่อยกลับออกมาเนื่องจากว่าเขาเป็นผู้ป่วยทางจิตเวช ซึ่งคิวก็มีแม่และพี่ขายของอยู่ภายในสถานีขนส่ง

ผู้สื่อข่าวได้เข้าสอบถามกับแม่ของคิว (ขอสงวนนาม) ซึ่งขายของอยู่ภายในสถานีขนส่งได้เล่าว่าลูกชายของตนเองเป็นผู้ป่วยทางจิตเวชซึ่งคนที่ไม่มีลูก หลานเป็นแบบนี้จะไม่มีทางรู้สึกเลยว่า คนที่มีลูกป่วยแบบนี้จะมีความรู้สึกอย่างไรซึ่งตนเองก็ไม่อยากที่จะให้ลูกของตนเป็นแบบนี้ ซึ่งเองและคนในครอบครัวก็ได้ช่วยกันดูแลมาโดยตลอดบางที่ลูกของตนเองก็พูดคุยรู้เรื่องบางที่ก็ป้ำๆ เป๋อๆเคยพาไปรักษามาแล้วหลายที่ และที่รพ.ศรีธัญญา ก็ไปมาแล้วหลายครั้งซึ่งหมอก็ลงความเห็นว่าลูกของตนเป็น โรคหลงลืมตัวเอง บางทีก็จำได้บางทีก็จำไม่ได้ โดยส่วนตัวแล้วลูกของตนเองไม่เคยที่จะไปทำร้ายใคร จะมีก็เพียงดุด่าบ่นแม่ซึ่งทุกคนที่รู้ก็จะไม่ถือสาอะไร ซึ่งลูกของตนตอนนี้ก็อายุ 33 ปีแล้วโดยเป็นแบบนี้มาตั้งแต่อายุ 19 ปีเนื่องจากว่าลูกของตนได้ไปรับขันเทพมา จากหมอดูร่างทรง จากนั้นก็มีอาการที่เปลี่ยนไป ปกติลูกของตนไม่ได้เป็นแบบนี้เขาเป็นคนดี เคยเรียนหนังสือมา และเรียนเสริมสวยมาด้วย และเมื่อลูกของตนมีอาการที่เปลี่ยนไปก็ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดด้วยโดยเข้าไปตามพวกตามฝูง ซึ่งทางหมอโรงพยาบาลศรีธัญญา ได้บอกว่าโรคที่ลูกของตนเองเป็นไม่มีทางรักษาให้หาย ต้องกินยาไปถึงตายจากกัน ส่วนเรื่องการที่แต่งตัวไปต่างๆนาๆนั้นตนเองบังคับเขาไม่ได้ โดยคิวจะแต่งตัวตามแต่อารมณ์ของตนเอง นึกจะใส่อะไรก็จะใส่ไปตอนนี้ลูกของตนเองเป็นแบบนี้คนก็รู้กันไปหมดทั่วประเทศเลย

ส่วนทางด้านนายแป๊ะ พี่ชายของนายคิว เล่าว่าตอนนี้ทางครอบครัวก็ได้ช่วยกันดูแลอยู่ตลอด พยายามพาไปรักษาตัวอยู่หลายที่ แต่ก็ไม่หาย ซึ่งตอนนี้ก็พยายามเอายาให้กินทุกวัน วันละ 2 เวลาเช้ากับเย็น ซึ่งน้องชายของตนเองก็ไม่เคยที่จะไปทำร้ายใคร จะมีก็เพียงเวลาที่ควบคุมตัวเองไม่ได้ก็จะคอยเดินไปขอเงินคนทั่วๆไป ตนเองอยากวิงวอนให้หน่วยงานไดก็ได้ที่สามารถเข้ามาช่วยเหลือครอบครัวของตน ช่วยพาน้องตนเองไปรักษาให้หายขาดด้วย ทางครอบครัวพยายามกันทุกวิถีทางแล้ว ตอนนี้หมดปัญญาแล้วอยากให้มีหน่วยงานเข้ามาช่วยเหลือด้วย

ทางด้านวินรถจักรยานยนต์รับจ้าง เล่าว่าพวกตนเคยเห็นออกมาทุกวันซึ่งการแต่กายก็จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ โดยเป็นที่รับรู้กันว่าตัวคิวนั้นเป็นคนที่สติที่ไม่ค่อยจะสมประกอบบางที่ก็เห็นเดินเข้าไปขอเงินผู้โดยสารที่มานั่งรอรถอยู่ภายในสถานี หรือบางครั้งก็ขี่รถจักรยานยนต์เที่ยวไปเคาะกระจกรถเพื่อที่จะขอเงินก็มี แต่ไม่เคยเห็นว่าจะไปทำร้ายใคร จะมีบ้างก็เมื่อขอเงินใครไม่ได้ก็จะด่าบ้างเป็นบางครั้ง

////////////////////////////////////////

ชาญวิทย์ คำนวนวุฒิ รายงาน