ตำรวจไซเบอร์ จับแก๊งคอลฯ อ้างสรรพากร หลอกกดลิงก์ สูญเงินเกือบ 2 ล้าน** สมบัติ ผลกิจ รายงาน

แชร์ข่าวนี้

 

 

ตำรวจไซเบอร์ จับแก๊งคอลฯ อ้างสรรพากร หลอกกดลิงก์ สูญเงินเกือบ 2 ล้าน

กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 จับกุมขบวนการ คอลเซ็นเตอร์ แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่กรมสรรพากร ส่งลิงค์ให้เหยื่อกด สูญเงินทันทีเกือบ 2 ล้านบาท

สืบเนื่องจากเมื่อปลายเดือนเมษายน 2566 ที่ผ่านมา ได้มีผู้เสียหายซึ่งตกเป็นเหยื่อของขบวนการคอลเซ็นเตอร์ แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่จากกรมสรรพากร โทรศัพท์มาแจ้งให้ผู้เสียหายส่งงบการเงินประจำปี ที่ยังค้างชำระและให้อัพเดทข้อมูลส่วนตัวให้เป็นปัจจุบัน พร้อมทั้งใช้แอปพลิเคชั่น Line ชื่อ กระทรวงพาณิชย์ ส่งลิงก์มาให้ผู้เสียหายโดยแจ้งว่าเป็นลิงก์เว็บไซต์ของกรมสรรพากร เพื่อให้ผู้เสียหายกดเข้าไปตรวจสอบว่ามีการค้างภาษีหรือไม่ ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงกดเข้าไปจากนั้นโทรศัพท์มือถือได้ค้างและดับไป ต่อมาปรากฏว่ามีการโอนเงินออกจากบัญชีของผู้เสียหาย ผ่าน Mobile Banking จำนวน 2 บัญชี รวมเป็นเงิน 1,968,049 บาท ผู้เสียหายรู้ตัวว่าถูกหลอกจึงได้มาร้องทุกข์กับ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เพื่อให้ช่วยติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 พ.ต.อ.ศรายุทธ จุณณวัตต์ และ พ.ต.อ.ทำนุรัฐ คงมั่น รอง ผบก. สอท.1 ได้สั่งการให้ทำการสืบสวนสอบสวนและติดตามจับกุมกลุ่มคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว ต่อมาพนักงานสอบสวน กก.4 บก.สอท.1 ได้สืบสวนสอบสวนจนทราบตัวผู้ร่วมกระทำความผิดดังกล่าว และได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหานี้ไว้

ต่อมาวันที่ 11 กันยายน 2566 พล.ต.ต. ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 พ.ต.อ.ทำนุรัฐ คงมั่น รอง ผบก.สอท.1 พร้อมกำลังฝ่ายสืบสวน กก.4 บก.สอท. 1 นำกำลังเข้าจับกุมตัว นายกำชัย หรือ ปุ๊ (สงวนนามสกุล) อายุ 37 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ได้ที่ บริเวณบ้านพัก ในซอยเทศบาลบางปู 91 อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ ในความผิดฐาน “ร่วมกันลักทรัพย์โดยลวงว่าเป็นเจ้าพนักงาน ,ร่วมกันโดยทุจริตนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน และ ร่วมกันเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งระบบและข้อมูลคอมพิวเตอร์”นอกจากนี้ยังพบว่าผู้ต้องหามีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติดและเคยถูกจับกุมตัวมาก่อน

พล.ต.ต.ชัชปัณฑกานต์ฯ กล่าวว่า “ผู้ต้องหาให้การรับว่า ก่อนหน้านี้มีหญิงสาวรายหนึ่งซึ่งรู้จักกันได้มาขอบัตรประจำตัวประชาชนไป โดยไม่ได้แจ้งว่าจะนำไปทำอะไร พร้อมทั้งให้ค่าตอบแทนมาเป็นจำนวนเงิน 200 บาท จึงเชื่อว่าจะมีการนำบัตรประชาชนของตนไปเปิดบัญชีธนาคาร หรือลงทะเบียนซิมการ์ดโทรศัพท์ (บัญชีม้า ซิมม้า) เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของผู้ต้องหา และกำลังขยายผลไปยังผู้ที่อยู่เบื้องหลังและขบวนการทั้งหมด”

พล.ต.ต.ชัชปัณฑกานต์ฯ ผบก.สอท.1 ได้ฝากเตือนไปยังพี่น้องประชาชนว่าอย่าได้หลงเชื่อหรือตกเป็นเหยื่อ โดยไม่ควรรับแอดเพื่อนในสื่อสังคมออนไลน์ที่ไม่รู้จัก หากจะรับขอให้ตรวจสอบข้อมูลในบัญชีให้ดี รวมทั้งไม่ควรกดลิงค์จากคนแปลกหน้าหรือผู้ที่ไม่รู้จัก เมื่อมีการติดต่อจากผู้ที่อ้างตนเป็นเจ้าหน้าที่          ควรตรวจสอบยืนยันว่าเป็นเจ้าหน้าที่จริงหรือไม่ และหากมีการชักชวนลงทุนในสกุลเงินดิจิทัล ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นมิจฉาชีพ และควรตรวจสอบความน่าเชื่อถือของการลงทุนอีกด้วย หากมีข้อสงสัยสามารถปรึกษาสอบถาม สายด่วน ตำรวจไซเบอร์ 1441 ได้ทันที

สอบถามเพิ่มเติม : พ.ต.อ.กฤษดา มานะวงศ์สกุล ผกก.4 บก.สอท.1  โทร. 081-684-2424

** สมบัติ ผลกิจ รายงาน