สระบุรี กู้ภัยร้องถูกรถชนขณะนำศพส่งผ่าพิสูจน์ผ่านมาเกือบ 2 ปี คดีไม่คืบ** ชาญวิทย์ คำนวนวุฒิ รายงาน

แชร์ข่าวนี้

 

สระบุรี กู้ภัยร้องถูกรถชนขณะนำศพส่งผ่าพิสูจน์ผ่านมาเกือบ 2 ปี คดีไม่คืบ

วันที่ 28 กันยายน 2566 จากกรณีที่เพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6 ได้โพสต์ข้อความว่า #ร้องเรียนตรวจสอบ 1 ปี คดีเงียบ..ทำไมถึงเงียบ..เจ้าของสำนวนต้องชี้แจงให้ผู้เสียหายสิ้นสงสัยด้วย #สถานีตำรวจภูธรหนองแค ขอปรึกษาค่ะเรากับแฟนเป็นกู้ภัย ขณะปฏิบัติหน้าที่กำลังนำร่างผู้เสียชีวิตไปชันสูตรโรงพยาบาลธรรมศาสตร์พอรถเรากับแฟนมาถึงแยกมีรถมาชนท้ายรถเราอย่างแรงคนขับมีอาการ 285 ร่วมด้วยรถเราเสียหลักไปชนกับเสาไฟ แฟนไม่เป็นไรแต่เราขาหักดามเหล็กตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม 2565 จนถึงตอนนี้วันที่ 27 กันยายน 2566 คดีไม่คืบหน้าเงียบมากกลัวจะไม่ได้รับความเป็นธรรมเหนื่อยจังกับคดี เคสนี้โดนชนตรงสะพานปลา เมื่อ 1 ปีรถกระบะน้องผมโดนชนใน ขณะกำลังปฏิบัติหน้าที่เอาร่างผู้เสียชีวิตไปส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ มีคนเจ็บถึง 3 คน และมีคนเจ็บสาหัส ออกค่ารักษาพยาบาลกันเอง หลักฐานค่ารักษาโรงพยาบาลมีหมด ต้องไปหายืมเงินเขามาจ่ายค่ารักษาน้องมันต้องเป็นหนี้เป็นสิ้น คู่กรณีไม่มาเหลียวแล ขอท่านผู้ทราบกฎหมายแนะนำ หน่อยครับ และจะได้เป็นตัวอย่างเคสอื่น เพราะมัน เงียบ เงียบ เกิน คู่กรณีก็ขอให้มีความเป็นมนุษย์หน่อย ฝากแชร์ถึงเพสใหญ่ๆด้วยครับ

ผู้สื่อข่าวได้ พบกับนายสุชาติ จีนเบี้ยว อายุ 33 ปี และนางสาวทิพวรรณ เอี่ยมสะอาด อายุ 29 ปี สองสามี ภรรยา เจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิกู้ภัยสว่างรัตนตรัยธรรมสถานสระบุรี จุดหนองแค ได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวว่า เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2565 เวลา 24.00 น. ขณะที่ตนเองและภรรยา พร้อมด้วยนายอนันตชัย เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ ได้ขับรถอีซูซุ ดีแม็ก สีขาว หมายเลขทะเบียน บว 9803 สระบุรี เพื่อนำร่างผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ เนื่องจากรถจักรยานยนต์ประสบอุบัติเหตุ ไปผ่าชันสูตรศพที่ รพ.ศูนย์ธรรมศาสตร์รังสิต เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิต และขณะที่ตนเองขับรถมาถึงสีแยกสะพานปลาหนองแค หน้าวัดสหมิตร(มุ่งหน้า อ.หนองแค ได้มีรถยนต์เอนกประสงค์ ยี่ห้อโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีดำ หมายเลขทะเบียน กล 71 กรุงเทพมหานคร

ซึ่งมีนายกมล เป็นผู้ขับขี่ ได้ขับขี่วิ่งมาอย่างเร็ว และพุ่งเชนท้ายรถกู้ภัยฯ ทำให้รถเสียหลักพุ่งตกลงไปข้างทางชนเสาไฟฟ้า ส่งผลให้นางสาวทิพวรรณ ได้รับบาดเจ็บ ต้นขาซ้ายหัก (ต้องนอนพักรักษาตัวอยู่นาน 8 เดือน) และนายอนันตชัย ได้รับบาดเจ็บเป็นแผลฉีกขาดที่หัวเข่าขวา ส่วนร่างผู้เสียชีวิต ที่จะนำไปผ่าชันสูตรได้กระเด็นออกจากตัวรถ และมีบาดแผลฉีกขาดตามลำตัวเพิ่มขึ้น รถยนต์ของเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ ได้รับความเสียหาย พังยับ โดยช่างได้ตีราคาค่าซ่อมไว้ที่ 300,000 กว่าบาท (สามแสนกว่าบาท) ซึ่งร้อยเวรในวันเกิดเหตุ พ.ต.ท.ภูษิต ได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมนำตัวนายกมล บุญชื่น ไปตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ ซึ่งจากการเป่าตรวจวัดได้ 202.5 มิลลิกรัม/เปอร์เซ็นต์ ซึ่งมีปริมาณที่สูงแต่ทางเจ้าหน้าที่ไม่ได้ควบคุมตัวหรือได้ดำเนินคดีอย่างไร มีเพียงเชิญคู่กรณีไปตกลงชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นกันยัง สภ.หนองแค และแยกย้ายกัน ซึ่งทุกวันนี้พยามยามจะสอบถามไปยัง พนักงานสอบสวนเกี่ยวกับความคืบหน้าของคดี แต่ก็ได้รับคำตอบว่า เดี๋ยวจะเรียกคู่กรณีมารับทราบข้อกล่าวหา เป็นอย่างนี้ตลอด จนถึงทุกวันนี้ ผ่านมาปีกว่าแล้ว คดีไม่มีความคืบหน้าเลย

ทางด้านนายสุชาติ จีนเบี้ยว ผู้เสียหาย เล่าว่าวันเกิดเหตุตนเองได้ไปรับศพจาก รพ.หนองแค ซึ่งเป็นศพที่ได้รับอุบัติเหตุจากรถจักรยานยนต์เกิดอุบัติเหตุ แล้วมีผู้เสียชีวิต จากนั้นได้นำศพเพื่อที่จะไปชันสูตรที่ รพ.ศูนย์ธรรมศาสตร์รังสิต และเมื่อขับรถมาถึงสีแยกสะพานปลา ได้ยินเสียงดังตูม ซึ่งแฟนของตน และเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯอีกคนบอกว่ารถของเรายางระเบิด ซึ่งตนเองก็คิดว่าไม่น่าจะใช่ จากนั้นก็มีเสียงดังตูม ขึ้นมาอีก เป็นเสียงที่ 2 ทำให้รถของตนเองเสียหลักไปชนเสาไฟฟ้าข้างทาง ซึ่งในขณะนั้นก็มีศพอยู่ด้านหลังรถของตนเองด้วย จากนั้นตนก็ได้เรียกพวกรถกู้ภัยฯให้เข้ามาช่วย จากนั้นตนเองก็ได้ยินเสียงของแฟนตนเองร้องว่า ขาหนูชาๆ หนูปวดขา ตนเองจึงได้ถีบประตูออกมาและเข้าไปช่วยแฟน ซึ่งขณะนั้นก็ได้กลิ่นน้ำมัน เกรงว่ารถจะเกิดไฟไหม้ ก็เลยพยายามช่วยตัวเองและแฟนออกาจากตัวรถ ส่วนคู่กรณีมิได้รับบาดเจ็บไดๆ ซึ่งคู่กรณีก็ได้ตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ ซึ่งวัดได้ 202.5 มิลลิกรัม/เปอร์เซ็นต์

ซึ่งเกินกว่ากฏหมายกำหนดแต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่ได้ดำเนินการไดๆ ไม่ว่าจะเรื่องคดีต่างๆ เพียงแต่บอกว่า เดี๋ยวผมรอเรียกคู่กรณีมารับทราบข้อกล่าวหา ส่วนเรื่องชดเชยค่าเสียหายนั้น ทางประกันของคู่กรณีเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมด แต่ยังมีบางส่วนที่ตนเองต้องจ่ายเอง อีกประมาณ 4,000 กว่าบาท ซึ่งเวลาก็ผ่านมาปีกว่าแล้วยังไม่มีความคืบหน้าอะไรเลยในเรื่องคดี ยังเงียบอยู่ ตำรวจก็แค่พูดว่าเดียวผมเรียกคู่กรณีมารับทราบข้อกล่าวหา อยู่อย่างนี้ตลอด ตนเองเดินทางไปสอบถามที่โรงพัก 2 ครั้ง และโทรไปสอบถาม 4-5 ครั้งก็ยังเงียบอยู่ ซึ่งตอนนี้ตนเองอยากให้คู่กรณีมารับผิดชอบด้วย ในสิ่งที่ตนเองต้องไปหยิบยืมเงินคนอื่นมา เพื่อมาเป็นค่ารักษาพยาบาล ภรรยาตน และค่ารถพาภรรยาของตนเองไปหาหมอ ตนเองต้องมานั่งส่งดอกทุกเดือน ๆ ละ 3,000 บาท เนื่องจากว่าตนเองไปกู้เงินเขามา 30,000 บาท ส่งดอกจนท่วมต้นไปแล้ว ตนเองจึงได้ร้องสื่อเพื่อขอความเป็นธรรมด้วย และตอนนี้ภรรยาของตนเองก็เดินไม่ปกติ มีอาการปวด ขาบวม ซึ่งตอนนี้ก็ต้องออกจากงานประจำ มารับจ้างเป็นลูกจ้างร้านขายน้ำ ซึ่งตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุมาคู่กรณีไม่เคยที่จะมาดูแล และเยียวยาอะไรเลย

นายสุชาติ กล่าวเสริมว่า จึงอยากฝากท่าน พ.ต.อ.สถิตย์ สังข์ประไพ ผกก.สภ.หนองแค ช่วยเร่งรัดให้ พ.ต.ท.ภูษิต เร่งรัดติดตามคดีให้ด้วยครับ เนื่องจากว่าเหตุเกิดมาได้ ปีกว่าแล้ว แต่คดีไม่คืบหน้าเลย ขอให้คู่กรณีออกมารับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลทุกวัน ค่าสินไหมทดแทน และค่าส่วนต่างในการซ่อมรถที่ต้องสำรองจ่ายออกไป ทุกวันนี้อยู่ด้วยความยากลำบาก ต้องหาเงินมาจ่ายดอกทุกเดือน

วันนี้นายสุชาติ จีนเบี้ยว ได้เข้าพบกับ พ.ต.ท.ภูษิต เพื่อสอบถามความคืบหน้าของคดี ว่าได้ดำเนินการไปถึงไหนแล้ว ได้รับคำตอบว่า ตอนนี้บันทึกประจำวัน ได้หายไปทั้ง 2 เล่ม ไม่รู้ว่ามันหายไปได้อย่างไร ทำให้ตนเองไม่ได้รับคำชี้แจง ซึ่งตนเองก็งงว่าบันทึกประจำวันหายไปได้อย่างไร ตั้ง 2 เล่ม จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่าจะหาให้อีกครั้ง ซึ่งตนเองก็ได้รับคำชี้แจงแบบนี้มาตลอด ตนเองพยายามโทรตามหาอยู่ตลอดก็ได้ไม่รับคำตอบไดๆ และเมื่อตนเองถามถึงความคืบหน้าของคดี ได้รับคำตอบว่าตนเองกำลังจะส่งฟ้อง ประมาณต้นเดือนนี้ ซึ่งตนเองก็ได้รับคำตอบแบบนี้มาตลอด จนผ่านมา 1ปีกับ 10 เดือนก็ยังไม่มีความคืบหน้าของคดี

  • สำหรับกรณี ดังกล่าว ยังอยู่ในขั้นตอนของการตรวจสอบข้อเท็จจริง ความคืบหน้าจะนำเสนอในโอกาสต่อไป….

** ชาญวิทย์ คำนวนวุฒิ รายงาน