สระบุรี ผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนเทศบาลร้องโรงเรียนทำอาหารกลางวันไม่พอกิน** ชาญวิทย์ คำนวนวุฒิ รายงาน

แชร์ข่าวนี้

 

สระบุรี ผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนเทศบาลร้องโรงเรียนทำอาหารกลางวันไม่พอกิน

วันที่ 7 กรกฎาคม 2567 จากรณีที่เพจ อีกี้ของแทร่ แอ๊บแอ้แอ้…ได้แชร์ข้อความว่า คุณแม่ท่านหนึ่งบ่นมา ลองไปอ่านดูหน่อย ซึ่งเป็นโพสต์ของผู้ใช้เฟสบุ๊กชื่อ มดตะนอย มดตะนอย โดยมีข้อความว่า “ลูกไป รร. ไม่ค่อยได้ทันกินอาหาร รร. ถามลูกว่า ทำไมไม่ได้กิน ลูกบอกว่า อาหารหมด ครูปล่อยช้า แต่เราคิดว่าถึงปล่อยช้าลูกเราต้องได้กิน เพราะมีงบประมาณต่อหัว ต่อคน ต่อวันทำไมลูกเราไม่ได้กิน อาหารไม่เพียงพอต่อเด็กหลายๆคน ไม่ใช่แค่ลูกเราคนเดียว (สงสารเด็กๆสงสารลูกตัวเอง)และเรื่องหนังสือไม่พอต่อการเรียนของเด็กนักเรียนให้เรียนเล่มละสองคนเป็นบางวิชาแล้วบางวิชาสั่งการบ้านมาลูกเราจับคู่กับเด็กบางคน อยู่คนละบ้านแล้วเด็กคนนั้นเอาหนังสือไปทำการบ้านลูกเราไม่มีหนังสือทำการบ้านปัญหาตามมาคือ ลูกเราจะโดนทำโทษ ใครรู้ตอบที เราควรทำยังไงแล้วจะแก้ปัญหาได้อย่างไร เราเป็นเพียงกระบอกเสียงเล็กๆของผู้ปกครองคนนึง##จากใจแม่##

ผู้สื่อข่าวได้พบกับผู้ใช้เฟสบุ๊กชื่อ มดตะนอย มดตะนอย ชื่อว่า นุ้ย (นามสมมติ) ได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า โรงเรียนดังกล่าว เป็นโรงเรียนแห่งหนึ่งที่สังกัดเทศบาลเมืองสระบุรี ในเขต ต.ปากเพรียว อ.เมือง จ.สระบุรี เนื่องจากว่าตนเองและผู้ปกครองหลายๆคนได้รับการบอกเล่าจากเด็กๆนักเรียนว่า อาหารกลางวันที่ทางโรงเรียนทำให้เด็กๆนักเรียนกิน รดชาดของอาหาร และเด็กก็ได้กินไม่ทั่วถึง ถ้าเด็กถูกครูปล่อยช้า อาหารจะไม่เหลือแล้วหมด ซึ่งลูกของตนเองก็ไม่ได้กินและเป็นบ่อยมาก เป็นมา 2 ปีแล้ว ซึ่งเด็กไม่ได้กินมีจำนวนมาก

ซึ่งเด็กนักเรียนจะได้ค่าอาหารต่อวัน ตกวันละ 22 บาท ซึ่งเด็กมีทั้งหมด 275 คน เด็กอนุบาลถึงชั้นประถมปีที่ 6 ได้กินฟรีจำนวน 200 คน ซึ่งจะมีงบประมาณเป็นเงิน 4,400 ต่อวันที่เด็กจะได้กิน แต่ถ้าเด็กออกมาช้าก็จะไม่ได้กิน โดยครูบอกว่าข้าวหมด ซึ่งบางวันเด็กจะได้กินข้าวแฉะบ้างอาหารบูดบ้าง ซึ่งตนเองเคยเข้าไปคุยกับแม่ครัว และบันทึกเสียงพูดคุยกันไว้ ซึ่งแม่ครัวได้หลุดพูดออกมาว่า วันศุกร์เขาได้เอาผัดถั่วที่เหลือแช่ไว้ที่ช่องฟิต แล้วเอามาอุ่นให้เด็กๆกิน รวมกับของใหม่ในวันจันทร์ ซึ่งที่ผ่านมาลูกของตนเองท้องเสียมาโดยตลอดตนเองก็ไม่รู้ว่าเกิดจากสาเหตุไดแต่ตอนนี้ตนเองรู้แล้วถึงสาเหตุที่เกิดขึ้น

ส่วนเรื่องอุปกรณ์การเรียนที่แจกให้นักเรียน เป็นจำนวนเงิน 220 บาทจะมีเพียงดินสอสี 1 กล่อง สมุด 5 เล่ม ไม้บรรทัด 1 อัน ดินสอ 3 แท่ง ยางลบ 1 ก้อน ซึ่งตนเองเคยนำไปตรวจเช็คราคาดูแล้วอย่างไงก็ไม่ถึง 220 บาท และหนังสือแบบเรียนที่ทางโรงเรียนแจกให้กับเด็กนักเรียนก็ไม่เพียงพอต่อเด็ก โดยให้เด็ก 2 คนเรียนต่อ 1 เล่ม ซึ่งตนเองเคยไปสอบถามร้านค้ามาบอกว่าไม่มีขายเพราะรัฐบาลให้งบหนังสือใหม่ทุกปีในระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมายังไม่มีหนังสือขาย นอกจากว่าทางโรงเรียนจะสั่งไปเป็นชุด ซึ่งตนมองว่าถ้างบไม่เพียงพอทำไมไม่แจ้งผู้ปกครองให้ซื้อ และเรื่องการประกันภัยของเด็กนักเรียน ทางโรงเรียนให้จ่ายคนละ 350 บาท ตั้งแต่เดือน เมษายนที่ผ่านมา และบอกว่าจะได้กรมธรรม์ ในเดือน มิถุนายน ทุกวันนี้เด็กๆยังไม่ได้กรมธรรม์กันเลย โดยทางโรงเรียนแจ้งว่าเด็กบางคนยังไม่ได้ส่งเงินค่าประกันฯ จึงยังไม่ได้ทำประกันภัยให้ เมื่อตนเองเช็คไปที่บริษัทหระกันภัยฯว่าค่าประกันเท่าไร จากนั้นได้มีการให้คืนเงินค่าประกันภัยให้ 50 บาทโดยบอกว่าค่าประกันภัยฯ 300 บาท ทำให้ตนเองสงสัยว่ามีการเก็บเบี้ยประกันเกินความเป็นจริง ส่วนเรื่องที่ตนเองมามาร้องสื่อเพื่อต้องการให้ตรวจสอบเรื่องอาหารกลางวัน เพราะว่าตนเองอยากรู้ว่าเรื่องการทำอาหารกลางวันมีการประมูลมาหรือไม่ แล้วทำไมไม่ให้แม่ครัวทำ ให้ครูไปเป็นคนทำอาหารในโรงอาหาร เอานักเรียนไปเรียนหนังสือในโรงอาหาร แล้วครูก็ไปทำอาหาร แค่สั่งงานให้เด็กทำ บางครั้งข้าวดิบ แฉะ ผัดวุ้นเส้นก็ไหม้ แกงเค็ม แกงเผ็ด ครูบอกรถน้ำปลาคว่ำ อันนี้ครูเป็นคนพูดมาเลย แล้วจะให้เด็กฝืนกินแบบนี้ไปทุกวันเลยหรือ ตนเองอยากได้แม่ครัวใหม่ คนเองเคยสอบถามไปยังครูภายในโรงเรียนแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้รับการแก้ไข ซึ่งตนเองจะนำเรื่องดังกล่าวไปแจ้งกับเทศบาลเมืองต้นสังกัดได้รับทราบเรื่องที่เกิดขึ้น ซึ่งตนเองคิดว่าทางตนสังกัดอาจจะยังไม่ได้รับทราบเรื่องดังกล่าวที่เกิดขึ้นก็เป็นไปได้

ทางด้านเด็กนักเรียน เล่าว่า ตนเองเคยกินลูกชิ้นที่ใส่ในก๋วยเตี๋ยวไป พอกลับไปบ้านเกิดอาการปวดท้อง ซึ่งข้าวที่ทางโรงเรียนให้ก็กินอิ่ม ซึ่งก็ให้เยอะอยู่ บางครั้งลูกชิ้นก็มีกลิ่น ซึ่งก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นบางถ้วยก็มีลูกเดียว บางถ้วยก็มี 2 ลูกแต่บางครั้งคนตักน้ำซุบก็เพิ่มให้ ส่วนเรื่องที่ครูปล่อยออกมาช้ากับข้าวก็จะเหลือน้อย บางคนก็ไม่ได้กิน ซึ่งเมนูอาหารทางโรงเรียนจะทำไม่ซ้ำกันในแต่ละวันส่วนรดชาดก็ได้อยู่มีเพียงลูกชิ้นที่มีกลิ่น ซึ่งตนเองก็เคยได้ยินแม่พูดว่าทางแม่ครัวเอาของเก่ามาทำอาหารให้กิน ซึ่งตนเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นความจริงหรือเปล่า ตนเองไม่กล้าไปปรักปำใครเขา ส่วนเด็กนักเรียนชายอีกคนเผยว่า ตนเองเคยพบเส้นผมอยู่ในก๋วยเตี๋ยว บางวันก็ในข้าว ส่วนข้าวตนเองไม่เคยเจอว่ามีกลิ่นบูด ถ้ากินก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นที่ได้ก็จะเท่ากันคนละ 2 ลูก ตนเองไม่เคยที่จะไม่ได้กินข้าว โดยส่วนตัวแล้วตนเองชอบกินก๋วยเตี๋ยว ส่วนข้าวตนเองไม่ชอบกับข้าวที่ทางโรงเรียนทำ

** ชาญวิทย์ คำนวนวุฒิ รายงาน