สระบุรี ตำรวจบุกจับพ่อค้ายาบ้า เจ๋ง อุทัย ขณะส่งยาบ้าให้ลูกค้าเกิดแย่งปืนตำรวจลั่นใส่พ่อค้ายาดับ** ชาญวิทย์ คำนวนวุฒิ รายงาน

แชร์ข่าวนี้

สระบุรี ตำรวจบุกจับพ่อค้ายาบ้า เจ๋ง อุทัย ขณะส่งยาบ้าให้ลูกค้าเกิดแย่งปืนตำรวจลั่นใส่พ่อค้ายาดับ

วันที่11 พฤษภาคม 2566 เมื่อเวลา 22.00 น. พ.ต.ท.สุทัศน์ สอนเหง้า  สารวัตร(สอบสวน)สภ.หนองแค จ.สระบุรี ได้รับแจ้งว่ามีคนถูกยิงได้รับบาดเจ็บที่บ้านเลขที่ 20 หมู่ 4 ต.บัวลอย อ.หนองแค จ.สระบุรี ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลหนองแค และเสียชีวิตในเวลาต่อมา จึงรายงานให้พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรี พ.ต.อ.เกษดา วัชรานนท์  รอง ผบก.ภ.จว.สระบุรี พ.ต.อ.สถิตย์  สังข์ประไพ ผกก.สภ.หนองแค พร้อมด้วยกองพิสูจน์หลักฐานจังหวัดสระบุรี ไปยังที่เกิดเหตุถึงที่เกิดเหตุ

พบเป็นบ้านชั้นเดียว มีรถเก๋งมาสด้า2 สีเทาดำ ทะเบียน กต. 4194 อ่างทอง จอดอยู่ข้างบ้านพบยาบ้าจำนวน 3,000 เม็ดวางอยู่พื้นใต้เบาะคนขับ มีมีดดาบวางอยู่ด้านหลังเบาะคนขับจำนวน 1 เล่ม พบ น.ส.คเณชา(ปอม) ธาราวาด อายุ 31 ปี เป็นชาวจังหวัดอ่างทอง เป็นภรรยาของนายสมเดช (หรือเจ๋ง อุทัย) สัทธศรี  อายุ 39 ปี (ผู้ตาย) อยู่บ้านเลขที่1 หมู่7 ต.บ้านหีบ อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา มีนายไกรสร  บัวทอง อายุ 40 ปี เป็นเจ้าของบ้านหลังดังกล่าวมี พ.ต.อ.ไกรสร ศรีอำพร  ผกก.สส.ภ.จว.สระบุรี  พร้อมชุดเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนจังหวัดสระบุรี จำนวนกว่า10 นายอยู่ในที่เกิดเหตุ

พ.ต.อ.ไกรสร  ศรีอำพร  ผกก.สส.ภ.จว.สระบุรี  กล่าวเบื้องต้นว่าได้ให้สายคือนายไกรสร  บัวทอง อายุ 40 ปี เป็นเจ้าของบ้าน ล่อซื้อยาบ้าจากนายสมเดช (หรือเจ๋ง อุทัย)ผู้ตาย นำยาบ้าจำนวน 3,000 เม็ดในราคา 6,000 บาท มาส่งให้ที่บ้านขณะที่นายสมเดช (หรือเจ๋ง อุทัย)ผู้ตาย ขับรถเก๋งมากับน.ส.คเณชา(ปอม)ภรรยา มาถึงที่บ้านนายไกรสร

เจ้าหน้าตำรวจชุดสืบสวนจังหวัดสระบุรี ที่ซุ่มอยู่ได้เข้าแสดงตัวจับกุมนายสมเดช (หรือเจ๋ง อุทัย)แต่นายนายสมเดช (หรือเจ๋ง อุทัย)ได้ขัดขืนได้พยายามเข้ามาทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมแย่งปืนของเจ้าหน้าที่ตำรวจทำให้ปืนเกิดลั่นใส่นายนายสมเดช (หรือเจ๋ง อุทัย) กระสุนขนาด 9 มม.เข้าที่ไหล่ขวาทะลุหน้าท้อง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงช่วยนำตัวนายสมเดช (หรือเจ๋ง อุทัย)ส่งโรงพยาบาลหนองแค และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บที่ริมฝีปากเนื่องจากถูกนายสมเดช (หรือเจ๋ง อุทัย)ชกต่อยช่วงชุลมุน

นาย  ไกรสร บัวทอง อายุ 40 ปี เป็นสายล่อซื้อยาบ้าของตำรวจ  กล่าวว่า ตนเองรู้จักผู้ตายโดยตนเองติดคุกในข้อหายาเสพติด ที่เรือนจำจังหวัดสระบุรี เมื่อหลายปีก่อน  โดยผู้ตายเป็นขาใหญ่ในเรือนจำมีหน้าที่รับจดหมาย และส่งต่อให้กับผู้ต้องขัง จนเมื่อตนเองออก และผู้ตาย จากเรือนจำ ในปี 2563 ได้ติดต่อกันทางโลกโซเชียล หรือเฟสบุ๊ค  จากนั้นก็มีการติดต่อกันมาเรื่อยๆ โดยที่ผู้ตายเสนอว่ามียาบ้าจำหน่าย ตนเองหลังออกจากเรือนจำก็ไม่ได้ทำงาน แต่กลับตัวกลับใจเป็นสายให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนเมื่อไม่นานก็มีการติดต่อการซื้อขายกัน โดยที่ผู้ตายยังวีดีโอคอลให้ดูว่ายังมียาบ้า  ตนเองจึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบ ทำการล่อซื้อ

จนเมื่อช่วง 22.00 น.  ผู้ตายได้ขับรถเก่ง มากับภรรยา มาส่งยาบ้าที่นัดหมายไว้จำนวน 3  มัด   โดยมีเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนแอบอยู่ใกล้ ๆ ที่รับยาบ้า เมื่อนายเจ๋ง ลงรถเก่งมา  เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตนว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มอบตัว โดยที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้อาวุธปืนขู่ให้มอบตัว แต่นายเจ๋งไม่ยอมเข้าแย่งปืนจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบ จากนั้นก็ต่อสู้กันมีเหตุการณ์ปืนลั่นใส่นายเจ๋ง บริเวณไหล่ช่วงไหปลาร้าทะลุ ลิ้นปี่  อาการบาดเจ็บ โดนที่ภรรยาของผู้ตายยังนอนหลับอยู่ในรถโดยไม่รู้สึกตัว จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้นำตัวส่งโรงพยาบาลหนองแค แต่ก็ไม่สามารถทนพิษบาดแผลได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา ตนเองคิดว่ามันเร็วมากจะห้ามให้มอบตัวแต่เนื่องจากนายเจ๋งตัวใหญ่ แรงเยอะไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์ แบบนี้เกิดขึ้น

ด้านพล.ต.ต.วิชิต  บุญชินวุฒิกุล  ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรี กล่าวว่า   จากการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน จ.สระบุรี สืบในเชิงลึกทราบว่านายเจ๋ง  อุทัย จำหน่ายยาบ้าในพื้นที่อำเภอหนองแค และอีกหลายพื้นที่ จึงได้ให้ชุดสืบสวนทำการหาข้อมูล เพื่อล่อซื้อในเขต อ.หนองแค จ.สระบุรี ได้ทำการล่อซื้อในขณะที่ คนตายได้นำยาบ้ามาส่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตัวเข้าจับกุม จากนั้น มีการต่อสู้และแย่งอาวุธปืนขนาด 9 . มม. จึงเกิดปืนลั่น ใส่ ผู้ตาย บริเวณด้านไหล่ขวาทะลุหน้าท้อง  จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำส่งโรงพยาบาลหนองแค  แต่ก็ไม่สามารทดพิษบาดแผลเสียชีวิตในเวลาต่อมา  จากการสอบสวนทราบว่า ผู้ตายนั้นมีพฤติกรรมการลักลอบขายเสพติดชนิดยาบ้า ดังนั้นจึงได้ทำการล่อซื้อ จำนวน 3 ถุง และนัดส่งมอบ ขณะที่ส่งมอบ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็แสดงตัว มีการต่อสู้และแยกอาวุธปืนกัน

ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ถูกทำร้ายร่างกายด้วยจากการต่อสู้กัน ปืนเกิดลั่นใส่ตัวผู้ตาย ดูจากวิถีกระสุนแล้วน่าจะเป็นการต่อสู้กันแล้วเกิดปืนลั่น เนื่องจากบาดแผลมีร่องอยกระสุนปืนจากบริเวณไหล่ซ้ายทะลุหน้าท้อง กระสุนฝังใน จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ร่วมกับทางญาติคนตาย ร่วมทั้งอัยการ ฝ่ายปกครอง  แพทย์ ได้ทำการชันสูตร แล้วในเบื้องต้น ในทางสืบสวน ทางด้านเรา มีพยานในที่เกิดเหตุค่อนข้างชัดเจน  และอีกส่วนหนึ่งต้องแสดงความเสียใจกับญาติพี่น้องของผู้ตายด้วย ถ้าผู้ตายไม่ขัดขืนต่อสู้ก็ไม่น่าจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น  แต่อย่างไรก็แล้วแต่ ได้ทำการสืบสวน และสวนให้ตรงไปตรงมา และให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝั่ง   ส่วนประวัติภรรยาผู้ตายนั้น เคยติดคุกในข้อหาค้ายาเสพติดมา 2 – 3 รอบล่าสุด จำนวน 9  ปี ที่เรือนจำสระบุรี พึ่งพ้นโทษออกมา  ส่วนนายเจ๋ง  ผู้ตายเคยก่อเหตุชิง -ลักทรัพย์  และมีประวัติยาเสพติดอีกด้วย แล้วพ้นโทษมาไม่นาน

ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจพนักงานสอบสวน สภ.หนองแค ได้เก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุ เป็นปืนขนาด 9 มม.พร้อมยาบ้ามาตรวจสอบ และนำตัว น.ส.คเณชา(ปอม) ธาราวาด อายุ 31ปี ภรรยาของนายนายสมเดช (หรือเจ๋ง อุทัย)มาสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.หนองแค  ส่วนศพนายสมเดช (หรือเจ๋ง อุทัย)ได้ส่งไปชันสูตรอย่างละเอียดที่โรงพยาบาลศูนย์ธรรมศาสตร์รังสิต จ.ปทุมธานี เบื้องต้นได้ตั้งข้อหา น.ส.คเณชา(ปอม) ธาราวาด อายุ 31ปี ภรรยาผู้ตาย ร่วมกันมีและจำหน่ายยาเสพติด

** ชาญวิทย์ คำนวนวุฒิ รายงาน