สระบุรี-สุดสยองพ่อ-ลูกถูกมีดปาดคอ ลูกดับคาที่ ส่วนพ่ออาการสาหัส คาดพ่อเป็นคนก่อเหตุก่อนฆ่าตัวตาม สาเหตุยังอยู่ระหว่างการสืบสวน **ชาญวิทย์ คำนวนวุฒิ รายงาน**

แชร์ข่าวนี้

วันที่ 23 กรกฎาคม 2567 เวลาประมาณ 10.20น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านหมอได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191ว่ามีเหตุฆ่ากันตาย ที่บ้านเลขที่134 หมู่4  ตำบลหนองบัว อำเภอบ้านหมอจังหวัดสระบุรี จึงเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิกู้ภัยสว่างรัตนตรัยธรรมสถานสระบุรี จุดบ้านหมอ ในจุดเกิดเหตุ เป็นบ้าน 1ชั้น ยกพื้น มีใต้ถุน อยู่ภายในสวนพื้นที่โดยรอบเป็นป่าละเมาะ ส่วนผู้เสียชีวิต ทราบชื่อภายหลัง ด.ช. บุญศิล กุศรี อายุ 14 ปี เสียชีวิตอยู่ภายในห้องนอน ส่วนผู้บาดเจ็บ นอนอยู่ข้างๆผู้ตาย อาการสาหัส ชื่อ นายบุญฤทธิ์  กุศรี อายุ 40 ปี เป็นพ่อของผู้ตาย เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯเร่งปฐมพยาบาลเบื้องต้นแล้วรีบนำส่ง โรงพยาบาลบ้านหมอไปก่อนหน้าแล้ว  สอบถามนาง บังอรรัตน์ กุศรี แม่นายบุญฤทธิ์ ผู้ที่บาดเจ็บสาหัส และเป็นย่าของ ผู้ตาย เล่า เหตุการณ์ ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดสืบสวน ด้วยอาการ สับสน  ลักษณะคล้ายจะปิดบังอะไรบางอย่าง ประกอบกับ แหล่งข่าวในพื้นที่แจ้งว่า มีดทำครัว ลักษณะ ที่เรียกมีดปังตอ หลังเกิดเหตุ ย่าผู้ตายนำมาทิ้งไว้ข้างบันได ทางขึ้นบ้าน อีกทั้ง  พ.ต.อ. มนัสเวท ทองอิ่มผู้กำกับ สภ บ้านหมอได้สอบปากคำนางบังอรรัตน์ ด้วยตัวเอง ซึ่ง เชื่อว่า นางบังอรรัตน์ น่าจะปกปิด ความจริงอะไรบางอย่าง โดยให้การ ไม่สอดคล้องกัน กับหลักฐาน ที่พบ ในจุดเกิดเหตุ และบุคคลที่เกี่ยวข้องใน คดีนี้  โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน  เบื้องต้น เข้าเก็บหลักฐาน โดยรอบจุดเกิดเหตุ และบริเวณห้องที่พบศพ พร้อมทั้ง มีด ที่ใช้ก่อเหตุ เพื่อนำไปตรวจดีเอ็นเอ รวมถึงลายนิ้วมือแฝง เพื่อหาตัวผู้ที่ลงมือก่อเหตุที่แท้จริง

ทางด้านพ.ต.อ. มนัสเวท ทองอิ่ม ผู้กำกับ สภ.บ้านหมอ เผยว่า จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ เป็นบ้านหลังสุดท้ายในซอยตัน ซึ่งมีผู้อาศัยอยู่ในบ้านทั้งหมด 4 คน ประกอบด้วย พ่อ แม่ ลูก และหลาน จากการสอบปากคำประกอบสถานที่เกิดเหตุในเบื้องต้น ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าผู้ก่อเหตุจะเป็นผู้ใด อยู่ระหว่างการสอบสวนบุคลลที่อยู่ในที่เกิดเหตุ รวมถึงตรวจสอบบริเวณรอบๆที่เกิดเหตุด้วย เนื่องจากว่าเป็นป่าจะมีรอยต่อเข้าไปในส่วนของถนนใหญ่ ซึ่งอาจจะมีกล้องวงจรปิดอยู่ด้วย และรอผลการชันสูตรจากแพทย์ เกี่ยวกับเรื่องบาดแผล ของคนที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต และรอผลตรวจสอบจากทางกองพิสูจน์หลักฐาน ซึ่งตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่เปิดประเด็นทุกอย่าง ซึ่งจะต้องเคลียออกที่ละประเด็นไป ซึ่งก่อนเกิดเหตุจะมีจะมี พ่อ ลูก และย่า อยู่ภายในบ้าน ส่วนปู่นั้นออกไปนอกบ้าน ซึ่งจุดข้อสงสัยทั้งหมดต้องรอการสอบสวนให้ครบทุกประเด็นก่อน ซึ่งทุกประเด็นมีความเป็นไปได้หมด และจะเลือกประเด็นที่เป็นไปได้เข้ามาตรวจสอบ

ทางด้านนางบังอรรัตน์ กุศรี แม่นายนายบุญฤทธิ์ ผู้ที่บาดเจ็บสาหัส เล่าว่า ลูกชายตนเองเล่าว่าตนเองโดนเพื่อนหักหลัง เพื่อนหลอกใช้ ยุให้เกลียดพ่อแม่ ว่าพ่อแม่ไม่รัก ลักษณะการบูลลี่พ่อแม่ว่าพ่อแม่ไม่รัก ซึ่งตนเองเอาลูกของตนเองไปอยู่กับปู่ ย่า ตั้งแต่ยังเด็กๆ ซึ่งลูกชายของตนนั้นรักลูกมาก และเลิกกับภรรยาไปตั้งแต่หลานของตนได้ 6-7 เดือน ซึ่งลูกของตนจะรักแม่ และห่วงแม่มาก เมื่อเช้าก็มากราบเท้า วันเกิดก็ยังพาลูกมากราบเท้าตนเอง และยังพูดว่าถ้าตนเอง(นายบุญฤทธิ์)เป็นอะไรมาเราจะไม่ปลอดภัย ขอให้แม่รีบหนีไปเลยนะ ซึ่งตนเองก็คิดว่าลูกของตนเองไม่น่าจะคิดสั้น เคยบอกลูกไปแล้วให้ทนเอาหน่อย เดี๋ยวพอหลานปิดเทอมแล้วก็จะไป โดยให้หลานชายบวชเณร ส่วนลูกชายให้บวชพระตลอดชีวิต และตนเองจะบวชชีพราหมณ์ เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวร สิ่งที่ใครคิดร้ายต่อเราไม่ต้องไปอาฆาตเขา ซึ่งลูกของตนเองยังพูดอีกว่ามันจะช้าไปหรือเปล่า เราต้องรีบไปจากตรงนี้นะ ซึ่งตนก็คิดว่าจะไปบวชทางภาคอิสาน ทางพระสายป่า ซึ่งตอนเกิดเหตุตนเองไปเก็บผัก ได้ยินแต่เสียงหมาเห่ากรรโชก ตนเองคิดว่าเห่างู ซึ่งลูกของตนนั้นรักลูกมากไม่มีการทะเลาะกัน ซึ่งตนเองก็รักหลานมาก เนื่องจากมีหลานชายเพียงคนเดียว ส่วนตนไม่รู้ว่าเกิดจากสาเหตุใด มีเพียงลูกชายพูดว่าโดนเพื่อนหักหลัง ซึ่งลูกของตนเองจะบ่นอยู่เป็นประจำ และบอกว่าเครียด นอนไม่หลับ ตนเองยังบอกไปว่าไม่ต้องคิดอะไร ลูกชายยังพูดอีกว่าความปลอดภัยไม่มาถึงเราแล้วนะแม่

ต่อมาช่วงเย็นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกนางบังอรรัตน์  กุสี อายุ 75 ปี และนายเลิศชัย กุสี อายุ 66 ปี เป็นย่าและปู่เด็กชายบุญศีล(น้องหยก) มาสอบปากคำที่ห้องสืบสวน สภ.บ้านหมอ นานกว่า2ชั่วโมง   สำหรับความคืบหน้าทางคดีตอนนี้ยังอยู่ระหว่างสอบปากคำปู่และย่าของน้องหยกผู้เสียชีวิต รวมถึงอยู่ระหว่างเชิญพยานแวดล้อมมาสอบปากคำอีก 3 ปาก ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเสียชีวิตจากสาเหตุใด ทางตำรวจเองก็ยังไม่ตัดประเด็นไหนทิ้ง ทั้งฆาตกรรมจากบุคคลนอก  คนใกล้ชิด และเรื่องภายในครอบครัว  สำหรับประเด็นเรื่องมีดที่ตกอยู่ใต้บันได เบื้องต้นทราบว่า ย่าของน้องหยก เป็นคนนำไปวางเอาไว้ที่ใต้บันได โดยให้เหตุผลว่าอาจจะทำให้เจ้าหน้าที่ทำงานได้ไม่สะดวก ส่วนก่อนที่จะเอาไปวางไว้ใต้บันได เจอมีดด้ามดังกล่าววางอยู่ข้างพัดลมในห้องนอน ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากตัวของลูกชายมากเท่าไหร่

ส่วนภาพกล้องวงจรปิดภายในหมู่บ้านจับภาพได้เมื่อเวลา09.24น.(23ก.ค.)นายเลิศชัย กุสี อายุ 66 ปี เป็นปู่ของน้องหยกขี่รถจักรยานยนต์กลับจากตลาดขี่ผ่านขณะกำลังจะเลี้ยวทางเข้าไปยังบ้านหลังที่เกิดเหตุห่างประมาณ1กิโลเมตรตามที่นายเลิศชัย กุสี อายุ 66 ปี ปู่ของน้องหยก ได้ให้ปากคำเบื้องต้นกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเอาไว้

/////////////////////////////////////////////////

ชาญวิทย์ คำนวนวุฒิ รายงาน